ส่องธุรกิจชานมไข่มุก 6 เจ้าดังในไทย

กระแสชานมไข่มุกได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาที่ได้รับความนิยมจากประเทศญี่ปุ่น จนกลายเป็นหนึ่งธุรกิจที่สร้างรายที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นร้านดังแบรนด์ดังขึ้นห้าง ไปจนถึงแบรนด์เล็ก ๆ ที่เราเห็นได้ทั่วไป หลายแบรนด์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ธุรกิจขายชาไข่มุกจึงกลายเป็นธุรกิจหลักของใครหลาย ๆ คนไปแล้ว วันนี้ turakitman.com จะพาไป ส่องธุรกิจชานมไข่มุก 6 เจ้าดังในไทย ว่ามีเจ้าไหนบ้างที่ มาดูกันว่าจะมีเจ้าไหนบ้าง ก่อนอื่นเราต้องทำความรู้จักกับตลาดชานมไข่มุกกันก่อนค่ะ

การจะแบ่งตลาดชานมไข่มุก น่าจะสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 3 กลุ่มคือ

1. ชานมไข่มุกพรีเมียม เน้นการขายแบรนด์จากต่างประเทศ ราคาอาจจะสูงถึงแก้วละ 80-150 บาท

2. ชานมไข่มุกพรีเมียมแมส ซึ่งแม้จะติดแบรนด์ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจแฟรนไชน์ ที่หาซื้อได้ง่ายและราคาถูกกว่า ราคา 35-70 บาท

3. ชานมไข่มุกระดับแมส ส่วนใหญ่คือผู้ประกอบการท้องถิ่น หรือร้านรถเข็นเจ้าเล็กๆ ราคา 15-35 บาท

ส่องธุรกิจชานมไข่มุก 6 เจ้าดังในไทย

1. KOI 

แบรนด์ชานมไข่มุกสัญชาติไต้หวัน ที่เติบโตแล้วกว่า 12 ประเทศทั่วโลก ด้วยจำนวนสาขามากกว่า 300 – 400 แห่ง การเติบโตของ KOI ไม่เพียงเติบโตแค่ตามกระแสนิยมของเครื่องดื่มสุดฮิต แต่ยังเป็นเหมือนภาพการเปลี่ยนแปลงของชานมไข่มุกเครื่องดื่มแห่งยุคที่มีการพัฒนาเติบโต จนกลายเป็นเครื่องดื่มพรีเมียม ที่แม้จะขยับจากหลักสิบขึ้นมาเป็นแก้วละร้อยกว่าบาท แต่ก็ยังมีลูกค้ายืนรอต่อคิวซื้อแบบไม่ขาดสาย

2. โนบิชา 

โนบิชา แฟรนไชน์ชานมไข่มุกสัญชาติไทยที่ได้คัดสรรและพัฒนารสชาติเมนูชาต่าง ๆ จนลงตัว อร่อยถูกปากคนไทย แม้จะก่อตั้งมาได้เพียง 2 ปี แต่สามารถเติบโตและมีสาขาแฟรนไชน์ทั่วประเทศกว่า 700 สาขา ราคาเครื่องดื่มเริ่มต้นเพียง 19 บาท มีเมนูเครื่องดื่มหลากหลายแบบ เหมาะสำหรับลูกค้าทุกวัยอย่างแน่นอน

3. โอชายะ 

โอชายะ แฟรนไชน์ชานมไข่มุกชื่อดังที่เจาะกลุ่มลูกค้าได้อย่างทั่วถึงด้วยจำนวนแฟรนไชน์กว่า 200 สาขา โดยเน้นกระจายสาขาอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้าและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงในอีกหลาย ๆ จังหวัด โดยมีทั้งเครื่องดื่มหลักอย่างชานมไข่มุกจนถึงน้ำผลไม้และชาประเภทอื่น ในเรื่องของราคานั้นก็ย่อมเยา ชานมไข่มุกเริ่มต้นที่ 35 บาทเท่านั้น เริ่มต้นลงทุนค่าแฟรนไชน์เริ่มต้นที่ 350,000 บาท โดยโอชายะก็มีแฟรนไชน์หลายขนาดให้เลือก ตั้งแต่ร้านขนาดเล็กไปจนถึงร้านขนาดใหญ่ที่เหมาะกับการตั้งในห้างห้างสรรพสินค้า 

4. ชาคุมะ

ชาคุมะ แฟรนไชน์ชานมไข่มุกที่ดำเนินธุรกิจมาได้กว่า 7 ปีและปัจจุบันมีสาขาแฟรนไชส์แล้วมากกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ Chakuma มาพร้อมเมนูเครื่องดื่มทั้งหมด 37 รายการ พร้อม Topping ให้เลือกสรรอีก 10 แบบ แฟรนไชน์ชานมไข่มุก Chakuma มีทั้งหมด 4 แพ็กเกจให้เลือกได้ตามความเหมาะสม และงบที่มีอยู่ พร้อมเปิดร้านได้ภายใน 1 สัปดาห์ โดยเริ่มต้นลงทุนแฟรนไชน์ร้าน Chakuma ในแพ็กเกจ Size X เพียง 39,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่รวมค่าอุปกรณ์ขายและวัตถุดิบพร้อมเปิดร้านโดยมีการอบรมวิธีการทำ เหมาะสำหรับคนที่มีร้านค้าเป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่สำหรับใครที่กำลังมองหาทั้งร้านค้าและอุปกรณ์ก็สามารถเลือกในราคาแพ็คเกจ Size S เพียง 59,000 บาทได้เลย 

5. หมีพ่นไฟ 

แฟรนไชน์ชานมไข่มุกน้องใหม่ที่มีจุดเด่นเป็นรูปปั้นหัวหมีที่ติดตั้งไว้หน้าร้านและยังมีเมนูsignature ชานมไข่มุกพร้อมวิปนมมูสที่เบิร์นไฟร้อน ๆ ก่อนเสิร์ฟให้ลูกค้า แถมยังมีเอกลักษณ์อีกอย่างของร้านคือ ลูกค้าจะต้องรับเครื่องดื่มจากหัวหมีที่ติดตั้งไว้หน้าร้าน เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นที่ลูกค้าค่อนข้างให้ความสนใจ แถมยังมีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายอีกด้วย เริ่มต้นลงทุนค่าแฟรนไชน์ชานมไข่มุกหมีพ่นไฟ The Fire Bear เริ่มต้น 150,000 บาท ลงทุนครั้งเดียว ไม่มีค่าใช้จ่ายรายปี 

6.   Monkey Shake 

แฟรนไชน์ชานมไข่มุกคุณภาพพรีเมียมที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 9 ปี ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 55แห่งทั่วประเทศ โดยมีเมนูเครื่องดื่มที่หลากหลายมากกว่า 30 รายการ และมีกิจกรรมโปรโมชันดีๆ ช่วยกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นลงทุนแฟรนไชน์ชานมไข่มุกร้าน Monkey Shake ที่ 290,000 บาท โดยได้รับร้านขนาดมาตรฐานนอกจากนี้ยังรวมค่าอุปกรณ์และวัตถุดิบพร้อมขายจำนวน 2,000 แก้วอีกด้วย 

เป็นไงกันบ้างคะกับ ส่องธุรกิจชานมไข่มุก 6 เจ้าดังในไทย เห็นแบบนี้แล้วอยากจะเป็นเจ้าของสักเจ้ากันใช่ไหมล่ะ การซื้อแฟรนไชน์คงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้คุณมีรายได้ไม่ขาดมือเลยทีเดียว 

เด็กเล็กในปัจจุบันน่าจะเป็นเด็กรุ่นที่กินผักได้ยากมาก และเป็นปัญหาของคุณแม่หลายๆ คนที่ลูกๆ ของคุณกินผักยาก ซึ่งเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป จะเริ่มกินอาหารเหมือนที่ผู้ใหญ่กิน เมนูก็จะคล้ายๆ กัน แต่รสจะไม่จัด ไม่เผ็ด และไม่ใส่ผงชูรส ปรุงอย่างเบามือ เน้นความหวานจากผักเข้าช่วย เมนูอาหารเด็ก ไม่จำเป็นต้องไม่ใส่ผัก ปรุงรสให้อ่อนแต่ให้ได้รสชาติกลมกลอม แค่นี้ก็พอแล้ว  จะมาแนะนำ 5 เมนูอาหารสำหรับเด็ก ช่วยให้เด็กกินผักได้ง่ายขึ้น จะมีเมนูอะไรบ้างไปดูกัน